SUSCO เผยผลประกอบการ ปี 2561 มีความโดดเด่น สามารถทำยอดขายเติบโตได้ตามเป้าหมาย ทั้งจากยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการ การส่งออกน้ำมัน และการจำหน่ายน้ำมันเครื่องบิน รวมทั้งการขยายธุรกิจ Non-Oil ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ LAWSON และ SCG Express บริการส่งพัสดุด่วน พร้อมทุ่มงบอีก 350 ล้านบาท ขยายสถานีบริการให้ครบ 250 สาขา และเพิ่มร้านสะดวกซื้อ LAWSON อีกกว่า 10 สาขาภายในปีนี้ พร้อมประกาศซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น และจ่ายปันผลอีกหุ้นละ 8 สตางค์
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO เปิดเผยว่า “ผลประกอบการในปี 2561ที่ผ่านมายังคงเติบโตต่อเนื่อง มียอดขายรวมกว่า 28,244 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2560 ซึ่งมียอดขายรวม 23,425 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 กว่า 27% คณะกรรมการจึงมีมติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 เพิ่มอีก 8 สตางค์ต่อหุ้น และอนุมัติให้ซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น ในวงเงินไม่เกิน 325 ล้านบาท
สำหรับการรุกธุรกิจในปี 2562 นี้ จะยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น ทั้งในส่วนของ Oil และ Non-Oil โดยตั้งงบประมาณการลงทุนไว้ 350 ล้านบาท เพื่อขยายสถานีบริการให้ครบ 250 สาขา และเพิ่มร้านสะดวกซื้อ LAWSON อีกกว่า 10 สาขา ตั้งเป้ายอดขายรวมในปี2562 เติบโตไม่น้อยกว่า 8 % ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา ซัสโก้ขานรับนโยบายกระทรวงพลังงาน เปิดให้บริการน้ำมันดีเซล B20 สำหรับรถขนาดใหญ่ ในเฟสแรก เพื่อช่วย “ลดฝุ่น ประหยัดเงิน” จำนวน 5 สาขา ได้แก่ สาขาราชบุรี, พุทธมณฑลสาย 5, ลำลูกกา (คลอง 7), บ้านบึง และ สาขาแก่งคอย 2 ซึ่งเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายภาคขนส่งและช่วยเหลือเกษตรกรสวนปาล์ม อีกทั้ง มีแผนที่จะขยายจุดบริการน้ำมันดีเซล B20 ให้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 สาขาภายในไตรมาสนี้
ภาพรวมปีที่ผ่านมา ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันยังคงมีการแข่งขันสูงแต่มีการเติบโตที่ดี สำหรับซัสโก้ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายราย เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆเพิ่มเติมให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในสถานีบริการ เช่น บัตรเครดิตKTC ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันเทพไทย กาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม M-Presso เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น และโครงการสะสมคะแนน SUSCO Smart Member ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยในขณะนี้ มียอดสมาชิก จำนวนกว่า 500,000 ราย ทั่วประเทศ” นายชัยฤทธิ์ สรุปในที่สุด