ไลฟ์สไตล์ » Thrive from Home…3 เทคนิคพัฒนาตนเองให้ก้าวไกลในช่วงโควิด-19

Thrive from Home…3 เทคนิคพัฒนาตนเองให้ก้าวไกลในช่วงโควิด-19

1 พฤษภาคม 2020
715   0

อย่างที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบวิถีชีวิตของผู้คน ความซบเซาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงเมืองที่เคยมีสีสันกลับร้างผู้คน หลายธุรกิจไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จนต้องปลดพนักงาน บางองค์กรถึงกับต้องปิดตัวเองลง ผู้คนไม่จำเป็นก็จะไม่ออกนอกบ้าน ไม่กล้าอยู่ในที่คนพลุกพล่าน และคอยติดตามข่าวสารเพื่ออัพเดทการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้ด้วยความวิตกหวาดหวั่นกลัวการติดเชื้อ

อริญญา เถลิงศรี Chief Capability Officer & Managing Director – SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า อย่างที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบวิถีชีวิตของผู้คน ความซบเซาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงเมืองที่เคยมีสีสันกลับร้างผู้คน หลายธุรกิจไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จนต้องปลดพนักงาน บางองค์กรถึงกับต้องปิดตัวเองลง ผู้คนไม่จำเป็นก็จะไม่ออกนอกบ้าน ไม่กล้าอยู่ในที่คนพลุกพล่าน และคอยติดตามข่าวสารเพื่ออัพเดทการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้ด้วยความวิตกหวาดหวั่นกลัวการติดเชื้อ

สิ่งเหล่านี้อาจมองดูเป็นฝันร้ายของใครหลายๆ คน แต่เชื่อเถอะว่าทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ  และในครั้งนี้ก็เช่นกัน หากคุณลองมองหาโอกาสที่เกิดขึ้นในวิกฤต ก็จะเห็นว่า บางทีคนเราอาจต้องปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว โลกของเรามีเทคโนโลยีต่างๆ ผุดขึ้นมามากมาย เพียงแต่ตัวเราทุกคนยังติดอยู่กับการทำอะไรรูปแบบเดิมๆ ไม่ได้ลองนำมาใช้อย่างจริงจัง วิกฤตครั้งนี้เข้ามาช่วยกระตุ้นให้เราทุกคนปรับตัวเร็วขึ้น บังคับให้คนต้องหันมาหยิบยกเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาผสมผสานจนเกิดเป็นทิศทางการทำงานและการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ อย่างเทคโนโลยี virtual ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการประชุม และการเรียนรู้ของคนเราในทุกวันนี้

ด้วยโลกที่จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วขึ้น New Normal ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังวิกฤตนี้จบลง  รูปแบบการทำงานต่างๆ รวมถึงการใช้ชีวิตอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อคนเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีที่ช่วยก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ เห็นว่าเราก็สามารถทำงานได้ แม้มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่  เกิดความคุ้นเคยและเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้เทคโนโลยีอย่างถาวร ในอนาคตอันใกล้ สังคมจะก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ แม้กระทั่งสถาบันการศึกษาก็ต้องพัฒนาวิธีการสอนแบบออนไลน์ทดแทนทั้งหมดในช่วงวิกฤต

ทั้งนี้ ตัวแต่ละคนเองก็จำเป็นต้องเตรียมทั้งวิธีคิด (Mindset) และทักษะ (Skillset) ให้พร้อมในการปรับตัวให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง สิ่งสำคัญคือ ในขณะนี้ ตัวเรามีความพร้อมมากน้อยเพียงใดที่จะก้าวเข้าสู่โลกยุค New Normal ที่กำลังจะมาถึง

แม้โควิด-19 จะเข้ามาทำให้รู้สึกวิตกหวาดหวั่นและเป็นกังวล แต่หากจะปล่อยให้วิกฤตนี้มาหยุดยั้งการพัฒนาตัวเราเองก็คงไม่ใช่เรื่องดี ในฐานะคนรุ่นใหม่ เราจึงควรเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะหากเราหยุดเดินหน้าเรียนรู้ก็เท่ากับถอยหลังและจะตามกระแสโลกที่หมุนไวนี้ไม่ทัน จากผลสำรวจของ World Economic Forum ชี้ว่า ภายในปี 2022 จะมีการเติบโตของตำแหน่งงานใหม่ๆ สำหรับพนักงานบริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลกราวๆ 16-27%

ในขณะที่ ‘เนื้องาน’ ในปัจจุบันจะได้รับผลกระทบจากจากเทคโนโลยีเดิมๆ ที่ล้าสมัยและถูกแทนที่ลดลงราวๆ 31-21% ดังนั้น เราถึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาตนเองตั้งแต่วันนี้ สำหรับใครที่กำลังสับสนและไม่รู้จะเริ่มตรงไหน 3 วิธีต่อไปนี้จะเป็นเหมือนเข็มทิศนำทางในการเพิ่มพูนทักษะ (Skillset) และวิธีคิด (Mindset) ให้เป็นเรื่องง่ายและทำได้ทันที

1.รู้จักตนเอง (Self-awareness)

เมื่อพูดถึงทักษะในวันนี้ จะเห็นได้ว่ามีทักษะและอาชีพใหม่ๆ ที่สำคัญและจำเป็นต่อการทำงานเกิดขึ้นมากมาย เราจึงต้องเลือกพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์ความเป็นตัวเรามากที่สุด ดังนั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่าตัวเราเองตั้งเป้าหมายและโจทย์การเรียนรู้อย่างไร จะพัฒนาไปจุดไหน ถามตนเองก่อนว่าความต้องการในเรื่องการทำงานคืออะไร และคนรอบข้างคาดหวังต่อบทบาทใหม่ของเราในแบบไหน หากตั้งต้นได้อย่างตรงจุดด้วยการทำความเข้าใจตนเองแล้ว การพัฒนาทักษะของเราก็จะไปได้ไกล ได้เร็ว และตอยโจทย์เป้าหมายชีวิตของเรา

โดยทั่วไป เราสามารถทำความเข้าใจธรรมชาติตัวเองมากขึ้น ผ่านการถาม feedback จากคนรอบข้างว่าเราควรพัฒนาไปในทิศทางไหนถึงเหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ตัวเราเองอาจสังเกตจากสิ่งที่เราทำได้ดี ความถนัดที่เราเห็นได้เองอยู่ในทุกๆ วัน หรือลองตรวจสอบและลิสออกมาว่า อะไรคือจุดแข็งและจุดด้อยของตัวเราก็ช่วยได้เช่นกัน

2.เลือกเครื่องมือในการเรียนรู้ให้ถูก

มองให้ออกว่ารูปแบไหนเหมาะกับเราในสถานการณ์ของเรา  จากสถานการณ์ปัจจุบัน รูปแบบ

การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์คนทำงานระยะไกล (remote worker) ได้อย่างดี ก็คงเป็นคอร์สเรียนออนไลน์ และการเรียนแบบ Virtual ซึ่งทั้งรูปแบบการเรียนทั้งสองลักษณะนี้ ก็มีข้อเด่นข้อด้อยต่างกัน

สำหรับรูปแบบการเรียนออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทและเสริมการเรียนรู้รูปแบบห้องเรียนมาสักระยะหนึ่งแล้ว ด้วยจุดเด่นที่ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา สะดวก ประหยัด และเข้าถึงกลุ่มคนส่วนใหญ่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม การเรียนออนไลน์ไม่สามารถตอบสนองผู้เรียนได้ทั้งหมด เพราะขาดในเรื่องของการมีส่วนร่วมระหว่างผู้เรียนและผู้สอน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี

อีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังมาแรง นั่นก็คือ รูปแบบการเรียน Virtual Classroom ที่เข้ามาเติมเต็มการเรียนรู้ที่สามารถพูดคุยกับผู้สอนได้แบบ real time ให้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่ต่างไปจากการเรียนในห้องเรียน แม้ไม่ได้นั่งเรียนอยู่ในห้องเดียวกัน ผู้เรียนสามารถแบ่งกลุ่มพูดคุยกันในเนื้อหาที่ซับซ้อนมากขึ้น ไม่ใช้แค่ขั้นตอนหนึ่ง สอง สาม สี่ แต่บางครั้งต้องอาศัยการตีความในหลายแง่มุม รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการเห็นมุมมองที่หลากหลายที่เกิดขึ้นระหว่างผู้เรียน ทั้งนี้ หากตัวเราเลือกรูปแบบการการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ก็สามารถช่วยให้ตัวเราพิชิตเป้าหมายการเรียนได้ไวขึ้น

3.บริหารการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ

หากตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ตัวเองอย่างดี มีเครื่องมือการเรียนรู้มากมายอยู่ในมือ แต่ไม่ลงมือทำก็คงไม่เกิดประโยชน์ สิ่งสำคัญในการฝึกให้ได้มาซึ่งทักษะหนึ่งคือการลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ความมีวินัยของผู้เรียนที่จะบริหารจัดการการเรียนรู้ของเราให้เกิดขึ้นในทุกๆ วัน เพราะทักษะหนึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจนเชี่ยวชาญ

ล่าสุด Josh Kaufman ผู้เขียนหนังสือ The First 20 Hours: How to Learn Anything…Fast! ได้กล่าวไว้ในรายการ TEDs Talk ว่า เพียงแค่คุณฝึกทักษะนั้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 20 ชั่วโมง หรือ 45 นาทีต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน คุณก็สามารถมีทักษะใหม่ๆติดตัวได้

แต่ในช่วงนี้ที่ชีวิตการทำงานของหลายคนที่ต้อง work from home กลายเป็น work 24 ชั่วโมง เพราะบริหารจัดการตารางชีวิตไม่ได้ งานด่วน ทำไม่ทัน  ก็ผลัดเวลาเรียนรู้พัฒนาตนเองออกไป และคิดว่าจะรอทีเดียวและอัดรวดเดียวเลย ซึ่งความคิดนี้ไม่ทำให้เกิดผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้ได้

ทุกวันนี้ รูปแบบการเรียนรู้มีหลากหลายมากขึ้น เราต้องรู้จักเลือกทักษะและรูปแบบให้เหมาะสมกับความเป็นเรา อย่าให้การเรียนรู้ของเราต้องสะดุดหยุดลง เพราะคนที่ประสบความสำเร็จมักจะต้องมีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และแน่นอนว่า ตัวเราเองก็ต้องเชื่อเสมอว่า เราทุกคนสามารถพัฒนาศักยภาพให้กลายเป็นคนที่ดีกว่าเราคนเดิมเมื่อวานได้หากไม่หยุดเรียนรู้

เปิดโลกแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองได้แล้วกับ SEAC พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดชีวิตกับ YourNextU โมเดลการเรียนรู้แบบ Blended Learning ที่ให้คุณเรียนรู้ในรูปแบบไม่มีลิมิต ตั้งแต่วันนี้ ที่ https://www.yournextu.com

 

เรื่อง:  อนุสรา ทองอุไร