ไลฟ์สไตล์ » 5 สิ่งที่ไม่ต้องทำ แล้วชีวิตจะดีขึ้น

5 สิ่งที่ไม่ต้องทำ แล้วชีวิตจะดีขึ้น

13 มิถุนายน 2020
522   0

ในโลกตอนนี้มีรายการ “สิ่งที่ต้องทำ” อยู่นับไม่ถ้วน เป็นมายาคติจากสื่อต่าง ๆ และสภาพแวดล้อมมาอย่างยาวนาน มากำหนดพฤติกรรมที่ต้องขยันเพื่อประสบความสำเร็จในชีวิต แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องผิดที่จะทำตามวิธีการมาตรฐานของสังคม แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถตัดสินใจได้เองว่า สิ่งไหนที่จำเป็นกับชีวิตเราจริง ๆ เพราะ 99 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่ต้องทำ เป็นสิ่งที่จริง ๆ แล้ว “ไม่ต้องทำ” แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้

ข้อมูลจากหนังสือ สิ่งที่ต้องขีดฆ่าออกจากชีวิตคุณ (Not to do list)  งานแปลจากญี่ปุ่นโดยสำนักพิมพ์ Shortcut ได้แนะนำรายการสิ่งที่ไม่ต้องทำไว้ 36 อย่าง ครั้งนี้จึงของหยิบหยกบางส่วนมาบอกต่อกันด้วย “5 รายการสิ่งที่ไม่ต้องทำ แล้วชีวิตดีขึ้น” เชื่อไหมว่าความเกียจคร้านเป็นสิ่งดีงาม เพราะยิ่งขี้เกียจเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่อยากทำงานจึงจะคิดอย่างจริงจังว่าทำยังไงถึงจะทำให้งานสำเร็จได้เร็วและมีประสิทธิภาพ เริ่มจาก

1.ไม่ละเลยการนอนพักผ่อน Keyword = ถ้าไม่นอนก็จะตายไว

เป็นที่แน่นอนว่า การใช้ชีวิตทีไม่ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ เป็นการใช้ชีวิตที่ผิดจากลักษณะของสิ่งมีชีวิต ถ้านอนไม่พอร่างกายคนเราจะพัง และไม่มีพื้นที่ให้จิตใจพักผ่อน  การนอนหลับพักผ่อนจึงถือเป็นพื้นฐานของชีวิตอีกด้วย การลางานด้วยเหตุผลว่านอนไม่พอนั้น ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมนี้ แต่การทำงานไปแบบพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เหมือนถูกซ้อมให้รับสารภาพแบบไร้มนุษยธรรม เพราะความจริงแล้ว การนอนทำให้รู้สึกดี และการหลับฝันก็เป็นสิ่งสนุก การนอนทำได้ฟรี ๆ และยังเป็นความบันเทิงที่ทำออกมาได้ดีกว่าอะไรทั้งนั้นอีกด้วย ฉะนั้นมีชีวิตอยู่แบบให้ความสำคัญกับการนอนกันเถอะ

2.ไม่ทำเอง Keyword = ทุกคนอยากให้คนอื่นมาพึ่งพา

การเป็น “โรคตัวเองทำเร็วกว่า” เพราะเป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบมากเกินไป และไม่ค่อยเชื่อใจคนอื่น แต่ในโลกนี้ไม่มีความสมบูรณ์แบบ และการทำได้เองคนเดียวก็มีข้อจำกัด การมอบหมายให้คนอื่นทำบางส่วนและทำให้สำเร็จไปแบบส่ง ๆ เป็นเรื่องธรรมดาของโลก นอกจากนี้ จุดสำคัญยิ่งไปกว่าคือ จุดที่ว่าคนเราชอบให้คนอื่นมาพึ่งพาตัวเองในเรื่องอะไรบางอย่างค่อนข้างมาก แต่ความจริงแล้ว การรับความช่วยเหลือจากคนอื่นทำให้ทำอะไรได้เยอะและหลากหลายกว่าทำทั้งหมดเองคนเดียว ได้สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น และสร้างความเชื่อใจได้มากขึ้นด้วย เพื่อจะมีชีวิตที่สบาย ๆ ฝึกขอร้องให้เก่ง และให้คนอื่นมาขอร้องกันดีกว่า

3.ไม่ตัดสินใจทันที Keyword = มอบหมายให้เอลฟ์ในหัวทำงาน

การตัดสินใจช้ามีข้อดี คือเมื่อใช้เวลาในการตัดสินใจ ทำให้สามารถตัดสินใจได้ดีกว่า และทำให้คิดไอเดียได้ดีกว่า สมองส่วนจิตใต้สำนึก ที่จริงแล้วกำลังจัดการข้อมูลต่าง ๆ ที่เราได้รับมาอยู่โดยที่เราไม่รู้ เป็นกลไกแบบที่ถึงจะเอาข้อมูลใส่เข้าไปในสมอง และปล่อยทิ้งไว้สักพักจนลืมไปแล้วก็ตาม ในระหว่างนั้นเอลฟ์ในจิตใต้สำนึกก็จะทำงาน และความคิดก็รวบรวมเป็นรูปเป็นร่างโดยไม่รู้ตัว

เมื่อคิดแบบนี้ ตอนที่ไม่ปิ๊งไอเดีย ให้ลองรอเอาไว้ก่อนโดยไม่ตัดสินใจทันที จะให้ผลลัพธ์ดีทีเดียว

การจะทำให้ข้อมูลหลับ ให้ลืมทั้งหมดไว้ก่อน แล้วหลังจากนั้นจะจดโน้ตเอาไว้เพื่อเริ่มทำต่อใหม่ก็ได้ เคล็ดลับในการจดโน้ตทิ้งไว้คือ “คิดว่าตัวเองในอนาคตคือคนอื่น” จัดระเบียบข้อมูลในแบบที่ถึงจะเป็นคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องมาดูก็สามารถเข้าใจได้ เมื่อจัดทำโน้ตแบบนั้นเป็นประจำ ความเข้าใจส่วนตัวของตัวเองก็จะลึกขึ้น และสามารถส่งต่องานที่ทำอยู่ให้คนอื่นได้ด้วย

4.ไม่ให้ความสำคัญกับวันเสาร์อาทิตย์  Keyword = ถึงจะมีคนลา องค์กรก็เดินต่อไปได้

บางครั้งลองลากิจมาพักผ่อนสบาย ๆ ลิ้มรสช่วงเวลากลางวันของวันธรรมดาดูบ้าง เมื่อเทียบกับระบบองค์กรที่หากไม่มีใครมาทำงาน งานก็จะไม่เดิน กับระบบที่ถึงจะหยุดไปคนหรือสองคน คนอื่นก็สามารถทำให้งานเดินต่อไปได้นั้นดีกว่า เพื่อที่จะทำให้เป็นองค์กรแบบนั้น ควรให้ทุกคนใช้วันลากิจได้ตามสบาย และหยุดวันธรรมดาได้เป็นปกติจะดีกว่า

5.ไม่หยุดอยู่ที่เดียว Keyword = 3 วิธีเปลี่ยนคน

วิธีที่จะทำให้คนเปลี่ยนมีเพียง 3 วิธีเท่านั้น สิ่งแรก คือ เปลี่ยนการแบ่งเวลา สิ่งที่สอง คือ เปลี่ยนที่อยู่ สิ่งที่สาม คือ เปลี่ยนเพื่อนที่คบหา มีเพียง 3 ปัจจัยเท่านั้นที่จะทำให้คนเปลี่ยน สิ่งที่ไม่มีความหมายเลยก็คือ “การตัดสินใจใหม่” สิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบต่อความคิดและการกระทำของเราโดยที่ตัวเองไม่รู้เลยสักนิด บ้าน ชุมชนเมือง และผู้คนที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน กำหนดขอบเขตอิสระของความคิดและไอเดีย ดังนั้น ตอนที่ถึงทางตันในเรื่องอะไรสักอย่าง หรือคิดอยากจะเปลี่ยนอะไร เมื่อเทียบกับการคิดว่าจะเปลี่ยนตัวเองโดยหลักจิตวิทยาที่ว่า “เปลี่ยนความรู้สึก แล้วมาพยายามกันเถอะ” เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวจะดีกว่า

แค่เปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบไม่ต้องไล่ตาม “สิ่งที่ต้องทำ” และเว้นช่องว่างให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนเท่านี้ชีวิตก็จะมีความสุขขึ้นแบบที่คาดไม่ถึงเลยก็ว่าได้

 

เรื่อง อนุสรา ทองอุไร