ไลฟ์สไตล์ » 5 เทคนิคสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มโอกาสสำเร็จให้กับตัวคุณ

5 เทคนิคสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มโอกาสสำเร็จให้กับตัวคุณ

8 กรกฎาคม 2020
580   0

แน่นอนว่าด้วยสถานการณ์ระบาดที่เป็น “ตัวเร่ง” ให้หลายองค์กรธุรกิจ ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงระดับกลางต้องปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างกะทันหัน นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับกระบวนการทำงาน ผู้ประกอบการและพนักงานอาจพบเจอกับความท้าทายของวิถีการทำงานที่ไม่คุ้นชิน ภาพการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปกะทันหัน เมื่อโลกกำลังหมุนเร็วและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่รอใคร บริบทของสังคมและการทำงานกำลังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

อริญญา เถลิงศรี Chief Capability Officer & Managing Director – SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า ความรู้ในวันนี้หมดอายุเร็วมาก ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นมากมาย สังคมที่เต็มไปด้วยกระแสข้อมูลข่าวสารที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตและการทำงานมากขึ้นทุกวัน ตัวเราแต่ละคนสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนรู้เพิ่มอยู่ตลอดเวลา และปรับตัวกับบริบทของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วเมื่อสภาวะวิกฤตจบลง หรือปล่อยให้ตัวเองถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ตัวเราสามารถกำหนดทางเลือกให้ตัวเองได้

จากสถานการณ์การระบาดของโรค ทำให้เห็นว่าแต่ละคนต้องมีความรับผิดชอบและมีวินัยกับตนเองมากขึ้น ไม่ควรมองข้ามการฝึกฝนพัฒนาตนเองแม้จะเจอความยากที่เกิดขึ้น อย่าปล่อยให้ตนเองจมอยู่กับสภาวะเหล่านี้นาน แต่ต้องรีบกลับมามองว่าตัวเราเองทำอะไรได้ ควรพัฒนาและปรับปรุงจุดไหน เพื่อให้ก้าวเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น แต่จะพัฒนาลักษณะเหล่านี้ได้ แต่ละคนต้องเปิดกว้าง วิ่งเข้าหาวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการฟัง การอ่าน หรือการดู ขอให้หาวิธีทำตัวเองให้สนุกกับการเรียนรู้ที่สุด เพื่อพัฒนาตนเองในการก้าวไปข้างหน้า 5 เทคนิคต่อไปนี้จะช่วยปลุกตัวคุณและกระตุ้นไฟในการเรียนรู้ให้ลุกโชนขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนกลายเป็นผู้รักการเรียนรู้ตลอดชีวิตในที่สุด

สร้างวิธีคิดแบบเติบโตให้เกิด (Growth Mindset)

สิ่งสำคัญของการเติบโตคือการเชื่อว่าทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้ และจะมีความเชื่อนั้นได้ขึ้นอยู่กับวิธีคิดของแต่ละคน จากงานวิจัยพบว่า วิธิคิดแบบเติบโต ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อสมองให้แข็งแรงและทำงานได้ดี แต่ยังช่วยสร้างเส้นประสาทเชื่อมโยงประสบการณ์ต่างๆ ในทางที่เป็นบวก ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านความคิด ปัญญา การตอบสนองต่อปัญหา ไปในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน จึงทำให้เราทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการเรียนรู้ในวัยผู้ใหญ่ ผู้ที่มีวิธีคิดแบบเติบโตจะเชื่อว่าคนเราสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้เสมอ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่การเป็นเหมือนแก้วที่เติมน้ำได้แบบไม่มีวันเต็ม เป็นคนที่ยอมรับตัวเองว่าเราไม่ได้รู้ทุกอย่างเสมอไป จะผลักดันให้เรียนรู้อยู่ตลอดและพัฒนาตัวเองไปข้างหน้าเสมอ

หาคำตอบจากหัวข้อที่กำลังสงสัย

เมื่อมีวิธีคิดแบบเติบโตแล้ว ต้องกล้าและพร้อมที่จะกระโดดออกจาก comfort zone ทดลองทำสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อนหรือไม่เคยสนใจมาก่อน ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการไปหาว่าเรานั้นไม่รู้อะไรบ้าง วิ่งเข้าหาสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และหาคำตอบในหัวข้อที่กำลังสงสัย และกำลังสนใจ ยิ่งในยุคนี้ การเรียนรู้นั้นไม่มีขีดจำกัดและมีหลากหลายช่องทางที่เราสามารถเลือกได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มคลังเอกสาร E-book ที่สามารถดาวน์โหลดออกมาอ่านได้ การอ่านถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนรู้ที่ไปได้ตลอด จากงานวิจัยพบว่าผู้ที่มีนิสัยรักการอ่านจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์น้อยกว่าถึง 2.5 เท่าเมื่อยามแก่ตัวลง เพราะการอ่านจะช่วยกระตุ้นกระบวนการทำงานของสมองในการซึมซับรับข้อมูลใหม่ๆ ในระหว่างที่อ่าน และด้วยปัจจุบัน มีช่องทางการเรียนรู้และรับข้อมูลหลากหลายรูปแบบ แต่ละคนสามารถเลือกเข้าถึงเพื่อคลายความสงสัยในเรื่องต่างๆ ที่คับข้องใจได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส แต่ขอให้ลงมือทำทันที ไม่ปล่อยให้ความสงสัยนั้นเลยผ่านไป

ผสมผสานระหว่างการพัฒนาส่วนตัวและการพัฒนาด้านอาชีพการงาน

เมื่อในทุกวันนี้ หมดยุคของการพูดถึง work-life balance เพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ส่งผลให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา และไม่สามารถทำให้การใช้ชีวิตและการทำงานสมดุลกันได้อย่างสมบูรณ์แบบสักที และโลกการทำงานกำลังปรับเข้าสู่แนวคิด work-life integration ผสานชีวิตส่วนตัวและการทำงานเข้าด้วยกัน เพื่อการทำงานที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องหันมามองในเรื่องการพัฒนาทั้งในแง่ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานให้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การวิ่งไปขอ feedback โปรเจคล่าสุดที่เราทำ เพื่อนำคำแนะนำมาปรับปรุง เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตการทำงาน และเป็นโอกาสที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นเมื่อต้องพบเจอกับ feedback ในชีวิตส่วนตัว อีกหนทางหนึ่งที่จะฝึกฝนพัฒนา work-life integration ได้อย่างแท้จริง คือการมองหาสร้างเส้นขนานระหว่างบทเรียนจากชีวิตส่วนตัวและความท้าทายที่พบเจอในการทำงาน ตัวอย่างเช่น เมื่อเจอโปรเจคลูกค้าที่ซับซ้อนและไม่เคยทำมาก่อน คุณอาจะนึกย้อนไปถึงอดีต ครั้งที่คุณเคยทำสิ่งที่ไม่เคยทำ และไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่สุดท้ายทำสำเร็จได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ เพื่อให้สุขภาพดีขึ้น อาจเป็นการทำภาษีธุรกิจครั้งแรก หรือการเริ่มย้ายเข้าสู่สถานที่ใหม่ งานใหม่ที่มีความท้าทาย เมื่อนึกถึงสถานการณ์เหล่านี้ เราสามารถนำบทเรียนที่ผ่านมาในชีวิตมาปรับและพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นได้ ด้วยการผสมผสานบทเรียนของชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานเข้าด้วยกัน

จัดตารางเวลาการเรียนรู้

แน่นอนว่า ด้วยชีวิตการทำงานที่เต็มไปด้วยภารกิจมากมาย คุณจะไม่สามารถหาเวลาที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ได้เลย ดังนั้น คุณต้องสร้างเวลาขึ้นมา เทคนิคที่ได้ผลที่สุดคือการวางแผนล่วงหน้า สร้างความตั้งใจที่จะลงมือทำ และจัดตารางให้กับการเรียนรู้ของตัวเอง โดยลองเริ่มค้นหาสัมมนาออนไลน์ คอร์สเรียนออนไลน์ระยะสั้น หรือ virtual conference ที่จะเข้าร่วม สามารถเริ่มจากหัวข้อที่สนใจก่อน และขยายหัวข้อออกไปให้กว้างขึ้น เป็นการบอกตัวเองว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่รู้ เพื่อเติมความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ

ลองเรียนรู้ในรูปแบบกลุ่มสังคมแห่งการเรียนรู้

การเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน ผ่านการสนทนา พูดคุย แบ่งปันประสบการณ์ และเรียนรู้จากมุมมองระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ช่วยให้การเรียนรู้เปิดกว้างมากขึ้น จากงานวิจัยพบว่าสมองจะเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในบริบทของการพูดคุยและทำงานร่วมกับผู้อื่น ดังนั้น การพาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มคนที่สนใจการเรียนรู้ เป็นสังคมที่รักและส่งเสริมการเรียนรู้ การเติบโตพัฒนาร่วมกันถือเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นจุดยืนการเรียนรู้ของเราได้อย่างดี นอกจากการเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานแล้ว การออกไปพบปะและเรียนรู้จากคนที่อยู่ต่างองค์กร ต่างสายงานจะช่วยเปิดมุมมองความคิดให้กว้างออกไป ช่วยให้เรารู้กว้างขึ้น การสร้างสายสัมพันธ์และมิตรภาพที่มีคุณค่า จะเป็นสะพานเชื่อมความสำเร็จให้แก่กันและกันได้

ใครที่เคยคิดว่าจะใช้ความรู้ที่เรียนมาตั้งแต่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยหากินตลอดชีวิต วันนี้ต้องตระหนักแล้วว่า ไม่เวิร์ก และครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่ใช่เรียนรู้แค่ให้ผ่านพ้นวิกฤตไป แต่ต้องทำตลอดเวลา ทำไปตลอดชีวิต ต้องขวนขวาย กระหายต่อการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา

เรื่อง  : อนุสรา ทองอุไร /