ไลฟ์สไตล์ » 5 ขั้นตอนเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ที่คว้าโอกาสได้ก่อนใครในยุคหลังโควิด

5 ขั้นตอนเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ที่คว้าโอกาสได้ก่อนใครในยุคหลังโควิด

28 กรกฎาคม 2020
786   0

ในวันที่กระแสของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยุคโควิด-19 ทำให้เราต่างเห็นชัดมากขึ้นว่าไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่เคยคิดว่ามั่นคง วันนี้กลับไม่ใช่ โลกหลังโควิด ในวันนี้เราอาจคาดการณ์บางอย่างได้ แต่ไม่มีใครรู้และไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ และแน่นอนว่า โลกยุค Post Covid-19 จะอยู่ยากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว คนในที่เหลือรอดอยู่ในองค์กรอาจได้รับมอบหมายงานเพิ่มเติมจากที่เคยทำอยู่ คนที่กำลังว่างงานก็ต้องเร่งหาทักษะใหม่มาอัพหน้าเรซูเม่ให้ดูโดดเด่น

แล้ววันนี้คุณเตรียมรับมือกับความท้าทายใหม่ของโลกหลังโควิด-19 ดีแล้วหรือยัง?

หากคำตอบคือตัวคุณเองก็ยังไม่แน่ใจ ตอนนี้ ขณะนี้คือเวลาที่เราและองค์กรต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยน ต้องพัฒนา และต้องปรับวิถีการทำงานเพื่อให้เท่าทันสถานการณ์ ให้ทันกับวิถีความปกติใหม่ที่เข้ามา

อริญญา เถลิงศรี Chief Capability Officer & Managing Director – SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่าในวันนี้ คุณคือผู้เลือกได้ว่าจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพิ่มทักษะให้กับตัวเอง หรือจะปล่อยให้ตัวเองล้าหลังและตายไปพร้อมกับกาลเวลาในโลกหลังจาก COVID-19 นี้  สิ่งสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเข้ามาในวันข้างหน้า เราจำเป็นต้องเริ่มมองที่ตัวเราเองก่อน ให้เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงพัฒนาที่ตัวเราเองเป็นอันดับแรก และ 5 ขั้นตอนต่อไปนี้ จะช่วยพาคุณเติบโต และก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับองค์กร

1.เริ่มตัดสินใจว่าจะก้าวไปข้างหน้า

การเติบโตพัฒนาเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อน โดยเริ่มต้นที่จะเป็นผู้เลือกเส้นทางที่ต้องการจะไป หากเราอยากเป็นคนใหม่ที่คว้าโอกาสได้ก่อนใคร สิ่งที่เราทำได้ คือ เราต้องพาตัวเองเดินไปในเส้นทางใหม่ เป้าหมายใหม่

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ขอยกตัวอย่างเรื่องราวจริงจากคุณ Julie Smolyansky ซีอีโอของบริษัท Lifeway Foods เธอผู้เป็น CEO ที่อายุน้อยที่สุดของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธุรกิจของเธอขยายไปที่เม็กซิโก  อังกฤษ และไอร์แลนด์ เธอดูแลพนักงานมากว่า 300 คน และปัญหาของเธอ คือ เมื่อเกิด COVID-19 ทำให้สินค้าของเธอกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น แต่เธอไม่รู้ว่าสินค้านี้มันจะเป็นที่ต้องการไปนานแค่ไหน และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ COVID-1 จะจบเมื่อไหร่ สิ่งที่สำคัญที่เธอรู้คือ หากเธอยังไม่เตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น เธออาจจะไม่รอดในวันที่กระแสน้ำของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เธอต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองในช่วงวิกฤตนี้ และเธอไม่อยากที่จะจ้างพนักงานเพิ่มในตอนนี้  เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์มันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน  และตัวเธอเองก็ไม่อยากที่จะลงทุนอะไรเพิ่ม และสิ่งที่เธอจะเปลี่ยนแปลงคือการเป็นผู้นำแบบใหม่ให้พนักงาน เธอต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ต้องปรับตัวเปลี่ยนสไตล์ และต้องเปลี่ยนวิธีการนำทีม  โดยเธอยากที่จะเข้าใจคนของเธอให้ดีขึ้น เพื่อที่จะเชื่อมโยงกับพวกเขาอย่างลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม และอยากเข้าใจว่าปัญหาที่พนักงานมีคืออะไรบ้างและถ้าจะขอให้พนักงานทำงานหนักในช่วงนี้ จะทำอย่างไรให้พนักงานอยากทำแบบนั้น คำตอบ คือ ต้องให้ใจ และซื้อใจพนักงาน โดยปรับที่ตัวเธอเองก่อน

ดังนั้น หากจะให้คนอื่นเปลี่ยน อยากให้คนอื่นพัฒนา ต้องเริ่มจากเปลี่ยนแปลงตัวเราเองก่อนเป็นอันดับแรก

2.รีเฟรมกรอบวิธีคิดใหม่

ถึงเวลาที่เราต้องกลับมาคิดใหม่เรื่องวิธีการเรียนรู้และวิถีการทำงาน สำรวจตัวเองว่าเรายังอยู่กับเรื่องเดิมๆ ยังชินกับเรื่องเดิมอยู่หรือเปล่า ขอให้พาตัวเองออกจากกรอบการมองเดิมๆ เราไม่สามารถทำสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นได้โดยไม่รีเซ็ท mindset ของเราก่อน

เมื่อก่อน หลายคนอาจมองว่างานประจำนี่มั่นคงสุดแล้ว ทุกๆ สิ้นเดือนเราได้เงินเดือนแน่นอน แต่จากสถานการณ์โควิด ไม่มีอะไรแน่นอน หลายคนมองว่าเรา Design Your Life ไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วเราต้องเปลี่ยนจากการอยู่ใน Fixed mindset ที่บอกว่าเราทำได้แค่นี้ เราคุ้นชินกับแค่นี้ แต่ขอให้เชิญตัวเองออกมา กระโดดออกมาจาก comfort zone แล้วลองอะไรใหม่ๆ ความจริงคือเราเป็นคนบอกตัวเองว่าเราทำได้แค่อาชีพเดียว แต่จริงๆ ทุกคนทำได้มากกว่านั้น

ดังนั้น ในวันนี้อย่ามีแค่อาชีพเดียว บทบาทเดียว เราออกแบบชีวิต ออกแบบอาชีพได้ 2-3 อาชีพได้ด้วยซ้ำ เราต้องปรับ mindset ของเราเอง ต้องไม่แคร์ว่าเคยทำหรือไม่ หรือ ใครเคยทำมาก่อน แต่เราต้องการพัฒนาขีดความสามารถในการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเราเองให้อยู่รอดในความปกติใหม่

3.พัฒนาชุดทักษะที่จำเป็น

ผสมผสานรูปแบบการเรียนรู้และวิธีที่หลากหลายในการอัพเดตเพิ่มพูนความรู้ทักษะให้กับตนเองเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ วันนี้ต้องเริ่มคิดถึงความรู้ใหม่ๆ ทักษะใหม่ๆ ที่ต้องการที่จะพัฒนา และจะเห็นได้ว่าไม่ใช่มีแค่ความรู้เดียวหรือทักษะเดียวที่จะต้องพัฒนา เวลาที่เราพูดถึงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงบุคคล เราจะต้องคิดถึงขีดความสามารถทั้งหมดที่เราอยากจะพัฒนา โลกปัจจุบันต้องการคนที่เป็น T-shape นั่นคือแเราต้องมองและรู้ในมุมกว้าง ถ้าเราเก่งแค่อย่างเดียว แต่ไม่รู้มิติอื่นเลยเราจะล้าหลัง

อย่างเช่นเราดูเรื่องการขาย เราก็จะเก่งเรื่องการขายมากเลย แต่วันนี้เราต้องมองการตลาดมาผสม ต้องมองเรื่องรูปแบบการวิเคราะห์ลูกค้า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่มักมองในส่วนลึก รู้ให้ลึก แต่ในวันนี้ ความเป็นคน T-shape จึงเป็นเรื่องสำคัญ เราจะสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในมุมที่กว้างมากขึ้น

4.กระดับศักยภาพบุคลากรและพันธมิตรทางธุรกิจ

เพราะ “คน” คือหัวใจสำคัญของธุรกิจ เราทุกคนจำเป็นต้องตื่นตัว เริ่มที่จะปรับเปลี่ยนด้วยกันทั้งหมด และต้องเข้าใจว่าเราไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ แต่ต้องปรับต้องเปลี่ยน พัฒนาก้าวไปข้างหน้าทั้งองคาพยบ

5.ลงมือกระทำให้เร็วยิ่งกว่า Agile ในวันนี้

ปัจจุบัน แค่วิถีการทำงานอย่าง Agile ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว แต่เราต้องเร่งตรวจวัดระดับความ Agile ของตัวเราและตัวองค์กรว่าตอนนี้ความ Agile อยู่ระดับไหนและควรจะพัฒนาอย่างไรให้ปรับเปลี่ยนได้อย่างเร็วยิ่งขึ้น

ความเป็นจริงในขณะนี้คือ เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า หลังจากนี้โลกเราจะเผชิญกับปัญหาอะไรต่อไป ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำหลังจากนี้คือการทำตัวเองให้พร้อมเสมอ ต้องเป็นคนที่กระโดดเข้าหาความรู้ มีทักษะที่เท่าทันโลกปัจจุบัน (Hyper-Relevant Skill)  เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกวัน

เปิดโลกแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองกับ SEAC พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดชีวิตกับ YourNextU โมเดลการเรียนรู้แบบ Blended Learning ที่ให้คุณเรียนรู้ในรูปแบบไม่มีลิมิต (Unlimited) ตั้งแต่วันนี้ ที่ www.yournextu.com

 

 เรื่อง : อนุสรา ทองอุไร