ผ่านไปแล้วอย่างเข้มข้น กับการออดิชั่นเฟ้นหาไอดอลนิยามใหม่ กับโปรเจคยักษ์แห่งปี DEBUT (เดบิวต์) โดย LINE ประเทศไทย เพื่อปั้นเป็น InfluenceStar ไอดอล “ดารา-อินฟลูเอนเซอร์” ที่ครบเครื่องทั้งเรื่องงานสายบันเทิงและทักษะการเป็นอินฟลูเซอร์ในยุคดิจิทัล พร้อมเตรียมแจ้งเกิดทั้งในวงการบันเทิงและโดดเด่นในวงการเทคโนโลยีของแพลตฟอร์มแห่งยุคอย่าง LINE
งานนี้ 4 ไอดอลเทรนเนอร์ที่มานั่งแท่นกรรมการด้วยตัวเอง ครูเกี้ย ณธกฤต, ครูบิว อรพรรณ, ครูแนน วาทิยา และ ครูเจด้า อภิสราฐ์ ร่วมคัดเลือกผู้เข้ารอบ 20 คนจากผู้สมัครเกือบสองพันจากคนทั่วประเทศ งานนี้บอกเลยไม่ง่ายอย่างที่คิด เล่นเอากรรมการเซอร์ไพรส์และปาดเหงื่อไปตามๆ กัน ที่ต้องตัดเชือกคัดผู้ที่จะมาเป็นไอดอลกลุ่มแรกของ LINE ประเทศไทย เพราะผู้เข้ารอบต่างงัดเอาความสามารถหลากหลาย ทั้งเล่นดนตรี เต้น รำไทย แสดงละคร ร้องเพลง หรือแม้แต่การเล่าเรื่อง โชว์เสน่ห์เฉพาะตัว ออกมามัดใจพร้อมด้วยการแสดงทัศนคติและตัวตนผ่านการตอบคำถามหมัดเด็ดจากกรรมการ
เปิดใจ 4 กรรมการไอดอลเทรนเนอร์ กับการออดิชั่นที่ไม่เหมือนที่ไหน
ครูเกี้ย ณธกฤต กาญจนมัณฑนา หัวหน้าฝ่ายการพาณิชย์ คอนเทนต์ และมีเดีย LINE ประเทศไทย ซึ่งรับหน้าที่เป็น Headmaster ของโปรเจค เล่าถึงความรู้สึกในการออดิชั่นครั้งนี้ว่า “เราได้เห็นถึงความตั้งใจของทุกคนในการอยากเข้าร่วมโปรเจค DEBUT ทุกคนเตรียมความพร้อมมาอย่างดี ซึ่งไอดอลที่เรามองหา นอกจากจะมีศักยภาพที่สามารถนำมาต่อยอดพัฒนาให้ครบเครื่องเพื่อป้อนเข้าสู่โลกที่กำลังจะถูกผนวกเข้าหากันระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ในอนาคตได้แล้วนั้น เรายังมองหาเสน่ห์และทัศนคติที่ดี สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้กับสังคมได้ เป็นความตื่นเต้นบนก้าวแรกที่เราจะได้เรียนรู้และเห็นจากตัวน้องๆไปพร้อมๆกัน”
ด้าน ครูบิว อรพรรณ Acting Trainer ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาทักษะการแสดงของนักแสดงในวงการอีกมากมาย เล่าว่า “เด็กทุกคนที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ามาออดิชั่น มีตัวตนและเอกลักษณ์ที่น่าสนใจมาก ความยากคือเราต้องเฟ้นหาว่าใครเหมาะสมที่สุดที่จะได้รับเลือกเป็นไอดอลในครั้งนี้ สำหรับครูบิว ดูจากไหวพริบ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเด็กๆ พื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่ควรต้องมีคือ การรู้จักตัวเอง สามารถสื่อสาร ถ่ายทอดออกมาในแบบที่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด พร้อมที่จะส่งต่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้”
ครูแนน วาทิยา Voice Trainer และนักร้องคุณภาพ กล่าวว่า “บรรยากาศออดิชั่นทั้ง 2 วันสนุกมากค่ะ เด็กรุ่นใหม่มักมีอะไรที่แปลกใหม่มานำเสนอเราเสมอ บางคนร้องเพลงเพราะมาก อยากให้ทำเพลงเลย นอกจากนี้ ครูแนนจะดูจากเสน่ห์ที่มีติดตัวเด็กแต่ละคนมา สายตา ทัศนคติ ว่าทำให้เราอยากติดตามต่อมั้ย รวมถึงดูที่มุมมองทางความคิด ทุกอย่างถือเป็นการแสดงออกทั้งสิ้น เพราะเรากำลังมองหาคนที่แตกต่างจากโปรเจคอื่น นอกจากทักษะความสามารถแล้ว ความคิดและตัวตนก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน”
ปิดท้ายที่ ครูเจด้า อภิสราฐ์ Dance Trainer และนักออกแบบท่าเต้นระดับประเทศจาก Harlem Shake เสริมว่า “ครูเจด้าจะดูจากเสน่ห์ในตัวเด็ก ไม่ได้ดูแค่ว่าเค้าเต้นเก่งหรือไม่ หรือมีทักษะติดตัวมาแล้วหรือเปล่า แต่ดูที่บุคลิกภาพ ความเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือ ต้องมีทัศนคติและอุดมคติที่ดี มีแง่มุมที่สามารถเป็นผู้นำทางความคิดได้ มีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งที่ตัวเองสนใจ และส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้ สำหรับใครที่ผ่านการคัดเลือก ก็ขอให้เตรียมเปิดใจที่จะเรียนรู้ พัฒนา กับหลักสูตรเข้มข้นที่ครูทุกคนตั้งใจที่จะถ่ายทอดให้กันได้เลยค่ะ”
แล้วมาลุ้นกันว่าใครจะได้เป็นไอดอลนิยามใหม่กลุ่มแรกที่จะมาคว้าใจคนไทย พร้อมเขย่าทุกวงการ อดใจรอผลอีกไม่นานเกินรอ เร็วๆนี้!