ไลฟ์สไตล์ » 5เทคนิคพัฒนาทักษะT-shapedคนเก่งรอบด้าน..ที่ทุกองค์กรต้องการตัว

5เทคนิคพัฒนาทักษะT-shapedคนเก่งรอบด้าน..ที่ทุกองค์กรต้องการตัว

11 สิงหาคม 2020
1916   0

เมื่อโลกใบนี้ ไม่ใช่โลกใบเดิมที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ อีกแล้ว โดยเฉพาะช่วง 3-4 ปีมานี้เป็นช่วงที่ยากและมีความท้าทายมาก ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามาปรับพฤติกรรมของคนทั่วโลก ทำให้เราไม่ได้แค่แข่งกับคู่แข่งขันในธุรกิจหรือการทำงานเท่านั้น แต่เรากำลังแข่งกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เรากำลังอยู่ในโลกที่มีความไม่แน่นอนและ unknown เยอะมาก

การมาเยือนของ COVID-19 ทำให้เราเห็นภาพชัดมากขึ้นถึงความไม่แน่นอน เป็นหนึ่งในเรื่องที่คนไม่เคยคิดมาก่อนว่า COVID-19 จะเกิดขึ้นและจะมาส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเรามากขนาดนี้ จะเห็นได้ชัดว่าชีวิตคนทำงานในโลกวันนี้ยากขึ้น และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ว่าเราจะมีชีวิตอย่างไร เพราะแค่องค์ความรู้ที่เราจะมาใช้ประกอบอาชีพการงานนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เราต้องอยู่ให้ได้และต้องอยู่อย่างมีความสุขให้ได้ด้วย

อริญญา เถลิงศรี Chief Capability Officer & Managing Director – SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน บอกว่าองค์กรในวันนี้เองก็ต้องปรับตัวให้เร็วเพื่อที่จะอยู่กับความไม่แน่นอนให้ได้เช่นกัน แรงขับเคลื่อนสำคัญคือพนักงานที่เก่งรอบด้านหรือเป็น T-shaped กล่าวคือพนักงานที่ไม่ได้มีแค่เพียงทักษะความชำนาญเฉพาะด้าน (แนวดิ่ง) เท่านั้น แต่ยังรู้กว้างขวาง รู้หลายด้าน สามารถผนวกองค์ความรู้และทักษะต่างๆ เข้ากันได้ดี

เพื่อใช้ในการต่อยอดการทำงานและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ ซึ่งคนที่มีทักษะ T-shape จะสามารถเรียนรู้และทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมให้กับองค์กรได้ หากไม่มีคนเหล่านี้อยู่ในองค์กร ก็ยากที่จะต่อกรและอยู่รอดในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในวันข้างหน้า ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนกลัวและกังวลว่าในอนาคตอันใกล้ หุ่นยนต์กำลังเข้ามาแย่งงานมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความเป็นจริงที่ต้องตระหนักก็คือ มนุษย์และหุ่นยนต์ต้องทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพให้ได้

การก่อมาเป็นตัว T ได้นั้น เกิดจากการเปรียบเทียบส่วนบนของตัวทีเป็นหนึ่งทักษะการเรียนรู้ที่กว้างขวาง หลากหลายไม่จำเจ ขณะที่หางตัวทีจะดิ่งลงเปรียบเสมือนทักษะการเรียนรู้เชิงลึกที่ต้องมีความเป็นคู่ขนานกันหากเอาเข้าจริงๆ คนเช่นนี้ก็เป็นที่ต้องการในตลาดการทำงานอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะปัจจุบันการเรียนรู้ทักษะดังกล่าวเพื่อพัฒนาตนเองทั้งเชิงลึกและกว้างกำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเป็นเช่นนั้น เทรนด์วันนี้คือหลายคนลุกขึ้นมาเรียนรู้ในแนวกว้างมากขึ้น เพื่อเอามาทำงานในสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีกว่าเดิม เราต้องมองในมุมกว้างให้เป็น ถ้าเราเก่งแค่อย่างเดียว แต่ไม่รู้มิติอื่นเลย เราจะล้าหลัง ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะลุกขึ้นมามองหาว่าคลาสเรียนเอง หาข้อมูล ทำแบบประเมินว่าวันนี้เราจำเป็นต้องพัฒนาทักษะไหน เทรนด์ในวันนี้คือ คนอยากมีทักษะ T-shaped มากขึ้น ตัวอย่างเช่น เราถนัดและดูเรื่องการขายมาตลอด เราก็จะเก่งเรื่องการขายมากเลย

แต่วันนี้เราต้องมองการตลาดมาผสม ต้องมองเรื่องรูปแบบการวิเคราะห์ลูกค้า จากในอดีตที่คนส่วนใหญ่เน้นการมองในส่วนลึกหรือทักษะแบบ I-shaped คือรู้ให้ลึกเพียงแขนงเดียวก็ว่าเพียงพอแล้ว แต่ในวันนี้ T-shaped จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และควรสร้างทักษะทั้ง soft skills และทักษะอื่นๆ นอกจากสายงานที่เราเชี่ยวชาญเข้าไปด้วย อย่าง ‘อีลอน มัสก์’ เขาเป็นอีกคนที่มีมุมเป็นคนทักษะรูปตัว T อยู่ไม่ใช่น้อยคือมีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก แต่ก็มีศาสตร์อื่น ๆ ที่รู้อย่าง ศาสนา วิศวกรรม ธุรกิจและอื่น ๆ อีกหลายแขนง ที่รู้เพราะเกิดจากการอ่านหนังสือที่มากมายของเขานั้นเอง พบกับ 5 เทคนิคควรรู้ในการพัฒนาตนเองให้เป็น T-shaped employee ที่องค์กรต่างต้องการตัว ดังนี้

1.ผสมผสานทั้งทักษะ Hard skills และ Soft Skills

ปัจจุบันเราจะเห็นว่าในโลกของการทำงาน Soft Skills (ความสามารถด้านสังคม) นั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า Hard Skills (ความสามารถด้านอาชีพ) ดังคำกล่าวที่บอกว่า “Hard Skill ทำให้คุณได้สัมภาษณ์งาน แต่คุณจะได้งานและรักษางานจนกระทั่งเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ จำเป็นต้องมี Soft Skill” เมื่อ Hard Skill มีความสำคัญต่อการเปิดโอกาสให้คุณ แต่ Soft Skill คือตัววัดว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนโอกาสนั้นเป็นความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างเช่น บางคนเป็นนักวิชาการที่เก่งมาก แต่ไม่สามารถอธิบายหรือสื่อสารให้คนอื่นรับรู้และเข้าใจได้ก็อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เราควรฝึกทักษะทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไปให้สมดุล เลือกที่ถนัดและทำได้ดีที่สุด เพื่อความพร้อม และสร้างโอกาสสำหรับการทำงานของเราในอนาคต

2.มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่คุณสนใจก่อน

หลายคนอาจได้ยิน ได้อ่าน ได้รับคำแนะนำว่าคุณควรมีทักษะนั้น ทักษะนี้ แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวคุณเอง คุณต้องเริ่มต้นมองว่าทักษะไหนที่คุณสนใจจริงๆ อยู่ในสายอาชีพที่คุณถนัด และเริ่มเรียนรู้ต่อยอดความรู้ให้ลึกขึ้นจากตรงนั้นจะง่ายกว่า พยายามอย่าเลือกทักษะที่มองว่าน่าจะหางานง่าย หรือเป็นที่ต้องการของตลาดเท่านั้น แต่ควรเป็นทักษะที่เราสนใจด้วย เพราะการเลือกทักษะที่คุณไม่ได้สนใจ มีแนวโน้มว่าคุณจะล้มเลิก และถอดใจกับการเรียนรู้ไปง่ายๆ

3.หากไม่แน่ใจ ลองเรียนรู้ทักษะให้หลากหลาย

แต่หากว่าตัวคุณยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน จะเจาะลึกไปที่ทักษะใด หรือยังหาทักษะที่สนใจไม่เจอ ดังนั้น คุณอาจเริ่มต้นเรียนรู้ทักษะต่างๆ ขั้นพื้นฐานก่อน เพื่อที่คุณจะได้มีไอเดียว่าทักษะไหนที่ควรค่าที่จะให้เวลามากขึ้น การทำเช่นนี้ก็คล้ายกับว่านักเรียนนักศึกษาเข้าใหม่ที่ยังไม่รู้จะไปเรียนสายไหน เลือกเรียนอะไร เพราะฉะนั้น ก็ลองเรียนให้มากและหลากหลายเพื่อค้นหาว่าชอบและสนใจอะไร

4.อย่าให้กรอบความคิดเดิมๆ มาจำกัดตัวเลือกในชีวิต

การที่คุณเรียนสายเคมี ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องเป็นนักเคมี ตัวคุณอาจรู้สึกสนุกและชอบความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวกับเคมี แต่อย่าจำกัดตัวเองว่าต้องทำแค่สายเคมีเท่านั้น คุณสามารถออกแบบอาชีพในแบบที่คุณต้องการได้

5.ฝึกเรียนรู้ให้เป็นนิสัย

หนึ่งพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนควรมีคือ ความสม่ำเสมอในการเรียนรู้ จะเห็นได้ชัดว่า จากวิกฤตโควิด-19 คนไม่ได้รอการผลักดันให้เข้าเรียนอีกต่อไป แต่กลับกระตุ้นตนเองขึ้นมาอัพเดตทักษะใหม่ๆ คิดสิ่งใหม่ ลองทำสิ่งใหม่ๆ ดังนั้น เทรนด์การเรียนรู้ที่กำลังมาแรงและตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้ คือ การเรียนรู้ให้เร็ว เรียนเดี๋ยวนี้ ใช้พรุ่งนี้  (Just in time Learning) การเรียนที่เพิ่มทักษะใหม่ เปิดโอกาสรับอาชีพใหม่ที่ตอบโจทย์อนาคต( purpose-driven) และสุดท้าย คนในยุคทุกวันนี้ไม่เชื่อว่าการเรียนรูปแบบเดียวจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนเดิมแล้ว แต่ต้องเป็น Blended Learning การเรียนรู้ที่ผสมผสานหลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกันถึงจะตอบโจทย์และโดนใจที่สุด เพราะในวันนี้การที่จะรู้ลึกอย่างเดียวนั้นไม่พอ ต้องรู้กว้างด้วย เพื่อที่จะคว้าโอกาสใหม่ๆ และสำเร็จได้ก่อนใคร

โดยสรุปคือ T-shaped Development เป็นเรื่องที่นิยมพูดถึงกันมาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้ บริษัทที่มีคนในลักษณะ “T-shaped people” อยู่มาก จะยิ่งคว้าโอกาสได้ทันที และแก้ปัญหาต่างๆ ได้ทันการ เพราะคนส่วนใหญ่เกิดมาด้วยความรู้ลึก ความรู้เฉพาะทาง ประสบการณ์หล่อหลอมเราเก่งด้านนั้น ด้านนี้ อย่างหลายคนที่จบสาย Marketing, Sales หรือ Finance มาแล้วทำงานด้านนั้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือความรู้กว้าง

ในวันนี้เราจะบอกเหมือนในอดีตไม่ได้แล้วว่า คนนี้ทำสาย HR ไม่เกี่ยวกับ Marketing ไม่ต้องเข้าอบรม หรือเข้าประชุมนี้ แต่อยากให้มองว่า หาก HR เก่งด้านการตลาด เก่งด้านการสื่อสาร เก่งด้านการขาย HR ก็จะช่วยทำให้องค์กรเผชิญกับความท้าทายได้ คนที่จะช่วยให้องค์กรวิ่งไปตอบภาพใหม่ ตอบโอกาสขององค์กรได้ คือ T-shaped employee บริษัทที่สามารถมี performance สูงและเติบโตมากในช่วงนี้ คือองค์กรที่มีพนักงานลักษณะนี้ที่มากพอ พนักงานที่มีความรู้กว้าง สามารถเรียนรู้ได้จากทุก interaction กับลูกค้าและทุกคนในองค์กร และสามารถช่วยยกระดับองค์กรให้มองได้กว้างขึ้น

 

เรื่อง : อนุสรา ทองอุไร